ความเป็นมาของวัดสนามใน

ความเป็นมาของวัดสนามใน

วัดสนามในเดิมไม่ปรากฏที่มาว่าใครเป็นผู้สร้างและสร้างเมื่อใด เป็นเพียงวัดรกร้างไม่มีพระสงฆ์หรือเณรจำพรรษามาเป็นเวลานาน จนกระทั่งปี พ.ศ.2519 นายวิโรจน์ ศิริอัฐิ และ มหาสุขสันต์ ได้เข้ามาแนะนำวัดนี้แก่หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ ซึ่งในขณะนั้นได้จำพรรษาอยู่ที่วัดชลประทานรังสฤษฏ์และกำลังหาสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการปฏิบัติกรรมฐานแก่ญาติโยม เมื่อหลวงพ่อเทียนมาดูที่วัดนี้พบว่ามีเพียงร่องรอยของโบสถ์เก่า เจดีย์เก่า ซากอิฐกระจัดกระจายอยู่พอให้เห็นว่าเคยเป็นวัดมาก่อน มีที่ดินเหลืออยู่เฉพาะบริเวณโบสถ์และเจดีย์ หลังจากนั้นท่านจึงตัดสินใจที่จะบูรณะให้เป็นวัดโดยสมบูรณ์อีกครั้งหนึ่ง หากแต่ความตั้งใจของท่านเพียงเพื่อให้เป็นสถานที่สัปปายะเหมาะแก่การอยู่ฝึกเจริญสติ ไม่เน้นการสร้างถาวรวัตถุ มีเพียงกุฏิเล็กๆ พอกันแดดกันฝน แต่เน้นธรรมชาติที่เรียบง่าย สงบ มีต้นไม้ร่มรื่น และไม่เน้นการบอกบุญเรี่ยรายใดๆ แต่เน้นให้ญาติธรรมเข้ามาฝึกปฏิบัติเจริญสติ ดังคำสอนของท่าน “มาทำธุระหน้าที่ ของตัวเอง ปฏิบัติตัวเอง รู้ตัวเอง เข้าใจตัวเอง ต้องมีหน้าที่อย่างนั้น”

วัดสนามในไม่ต้องสร้างอะไรให้มาก เพราะว่าเราจะดูธรรมชาติ ต้นไม้ หรือ ใบไม้ พื้นดิน มันทำประโยชน์อะไรให้คนได้

หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ

เรื่องเล่าจากชาวสนามใน

อาตมามาถึงวัดสนามในอยู่ได้สี่เดือนในครั้งแรก ประทับใจในความสงบ เงียบ มีกุฏิเรียบๆง่ายๆหลังเล็กๆ ตอนนั้นแยกชายหญิงแล้ว สมัย ก่อนไม่มีตารางเวลาฝึก ว่างก็ฝึกกันเลยทั้งโยมทั้งพระเหมือนกัน ฝึกกันหนัก ทุกคนรู้หน้าที่ตัวเอง หลวงพ่อเทียนท่านอยู่เป็นเพื่อนคอยพูด คอยดูแล คอยให้กำลังใจ เราก็มีกำลังใจฝึก หลวงพ่อเทียนท่านพูดน้อย พูดเท่าที่จำเป็น ท่านให้เราปฏิบัติเอาเอง

พระอาจารย์โสภณ ฉนฺทธมฺโม

คำว่า สนามใน มาจาก สนามรบ คือมันเป็นที่นักเลงตีกัน ท้าตีท้าต่อยกันที่นี่ ฆ่ากันตายแล้วเอาศพมาโยนให้รถไฟทับอำพรางคดี เมื่อก่อนนี้ไม่มีการแยกกุฏิหญิงชาย ตอนกลางคืนหลวงพ่อเทียนท่านจะไม่นอน แต่คอยเดินเวรยาม ดูความปลอดภัยให้ญาติโยมซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง เพราะมันเป็นที่เปลี่ยวและอันตราย

ลุงเล็ก (นายโภคะ ภิญโญยิ่ง)

หลวงพ่อเทียนท่านสอนทุกคน ใครอยากฝึกก็มา วิธีการของท่านทำให้เราวางใจได้ ทำให้รู้สึกว่าทุกอย่างไม่ค่อยมีความสำคัญ ความทุกข์มันมากับความคิด พอป้ามีปัญหาป้าก็จะยกมือ มันแก้ได้ เราจะไม่อยู่ในความคิด นี่คือที่ได้เรียนรู้จากหลวงพ่อเทียน ท่านไม่รับบริจาค ไม่มีเรี่ยไร ไม่มีมาพูดถึงการสร้างโน่นสร้างนี่ใหญ่โตสิ้นเปลือง หรูหราฟุ่มเฟือยไม่มี พัดลมก็ไม่มี คนมาฝึกสมัยนั้นเค้าก็อยู่กันได้นะ มีเท่าไหร่ก็อยู่กันไป ท่านกินง่ายอยู่ง่าย ท่านไม่ค่อยรับกิจนิมนต์ สวดมนต์ไม่ค่อยเน้น เดินจงกรม นั่งสร้างจังหวะ ฝึกปฏิบัติให้มากๆอย่างเดียว สอนบ่อยๆว่า คิดให้รู้ ให้รู้จักเตือนตัวเองดูตัวเอง

ป้าพัน (สุทธิพรรณ ทองอยู่)